ฆาตกรจำพวกที่ฆ่าแล้วกลืนกินเหยื่อของตัวเองล้วนมีเหตุจูงใจที่ต่างกันออกไป อย่างเช่น ฮันนิบาล เล็คเตอร์ จากภาพยนตร์ Silence of the Lamps เขา มีความรู้สึกเป็นสุขเมื่อได้นำส่วนหนึ่งของเหยื่อเข้ามารวมเป็นส่วนหนึ่งของเขา (ด้วยการกิน) เพราะในวัยเด็กน้องสาวของเขาถูกทหารหิวโซกลุ่มหนึ่งกินเพื่อประทังชีวิต ! (ติดตามได้จากภาพยนตร์เรื่อง Hannibal Rising) ดังนั้นการแก้แค้นให้น้องสาวหลังจากฆ่าทหารเหล่านั้นเสร็จเขาก็กินแม่งซะเลย เพื่อให้น้องกลับมาอยู่กับขาอีกครั้งหนึ่ง หรืออย่างกรณีของ ซีอุย ที่ฆ่าเด็กเล็กๆ ก่อนจะคว้านท้องเอาเครื่องในมากิน นั่นเพราะเขาเชื่อว่าจะทำให้เขาแข็งแรง มีกำลัง ..แต่สำหรับฆาตกรรายนี้ ไม่ใช่
โจอาชิม โครลล์ เกิดเมื่อปี ๑๙๓๓ ที่ซีเลเซียเหนือ ประเทศเยอรมัน ติดกับชายแดนโปแลนด์ ดูผิวเผินแล้วเขาเป็นเพียงชายวัยกลางคนที่ท่าทางใจดี ไม่มีพิษมีภัย แต่ข้างในลึกๆ แล้วนั้นกลับเป็นคนละเรื่องกับภาพลักษณ์ภายนอก
โครลล์ในวัยเด็กค่อนข้างจะอ่อนแอ ผลการเรียนย่ำแย่ จากการทดสอบไอคิวเขามีไอคิวเพียง ๗๖ เท่านั้น เหยื่อรายแรก (เท่าที่เขาพอจะนึกออก) เกิดขึ้นในปี ๑๙๕๕ เอิร์มการ์ด สเติร์ล หญิงสาววัย ๑๙ ถูกฆ่าทิ้งไว้ในโรงนาแห่งหนึ่ง และจากการชันสูตรพบว่าเธอถูกข่มขืน แต่นั่นเกิดขึ้นหลังจากเธอเสียชีวิตแล้ว เหยื่อรายถัดมาของเขา (เท่าที่เขาพอจะนึกออกอีกนั่นแหละ) เกิดขึ้นหลังจากนั้นถึง ๔ ปี คาร์ร่า ฟรีดา วัย ๒๔ ถูกฆ่าแล้วทิ้งศพไว้ใกล้กับแม่น้ำไรน์ หลังจากรายของคาร์ร่าแล้ว เหยื่อของเขาก็เริ่มอายุน้อยลงๆ
โครลล์ ขณะถูกนำตัวขึ้นศาล ถัดมาคือภาพขณะที่ โครลล์ ในมาดที่ดูสุภาพกำลังคุยกับทนาย
กรกฎาคม ๑๙๕๙ มานูเอลา น็อดต์ วัย ๑๖ ถูกพบเป็นศพอยู่ในสวนสาธารณะเอสเซน และมีร่องรอยถูกข่มขืนหลังจากที่เธอเสียชีวิตแล้วเช่นกัน แต่รายนี้ต่างจากรายอื่น ตรงที่เนื้อบริเวณต้นขาของเธอถูกเฉือนออกไป จากนั้นมาก็มีการพบเหยื่อที่ถูกฆ่า ข่มขืน และถูกเฉือนเนื้ออกไปอีกหลายราย สร้างความหวาดผวาให้กับประชาชนในแคว้นรูห์เป็นอย่างมาก โดยเฉพาะบรรดาเด็กผู้หญิง ทำให้บรรดาผู้ปกครองต้องคอยระแวดระวังลูกหลานของตัวเองกันยกใหญ่
ช่วงปี ๑๙๕๙-๑๙๗๐ โครลล์ จัดการเหยื่อไปกว่า ๑๐ ราย (เท่าที่มีหลักฐานบันทึกไว้) โดยมีอายุระหว่าง ๕-๑๓ ปี แต่คราวนี้เหยื่อบางรายไม่ได้ถูกเฉือนเนื้อออกไปด้วย แต่จากหลักฐานในที่เกิดเหตุ ตำรวจเชื่อว่าน่าจะเป็นผลงานของฆาตกรรายเดียวกัน
สภาพครัวในห้องพักของเขา เตาที่เห็นคือสถานที่ประกอบอาหารด้วยเนื้อสดๆ ของเหยื่อ
ปี ๑๙๗๖ ในดุ๊ยสบวร์ก ผู้ปกครองของ แมเรียน เคตเตอร์ เด็กหญิงวัย ๔ ขวบ เข้าแจ้งความว่าลูกสาวของเธอหายตัวไป คราวนี้ตำรวจทำการค้นอย่าละเอียด โดยเคาะค้นบ้านทีละหลัง อพาร์ทเมนท์ หอพักทุกแห่ง ทุกห้อง จนมาถึงอพาร์ทเมนท์แห่งหนึ่ง เจ้าของอพาร์ทเมนท์เล่าให้ตำรวจฟังว่า มีผู้เช่ารายหนึ่งมาแจ้งว่าส้วมที่ชั้นบนนั้นตัน ใช้งานไม่ได้ พอถามกลับไปว่าแล้วอะไรมันอุดอยู่ล่ะ ไอ้หมอนั่นตอบกลับมาหน้าตาเฉยว่า “ไส้” เจ้าของเลยแจ้นมาแจ้งตำรวจ พอทีมตำรวจบุกเข้าค้นห้องพักที่ว่านั่น ก็พบกับผู้เช่นรายนั่นซึ่งก็คือ โครลล์
ทันทีที่เข้าไปในห้องพัก ตำรวจก็รู้ทันทีว่าพวกเขาพบฆาตกรโรคจิตที่ค้นหามานานกว่าสิบปีเข้าให้แล้ว เพราะในครัวพวกเขาพบว่ามีมือของเด็กถูกต้มรวมกับแครอทและมันฝรั่งอยู่! และในตู้เย็นก็ยังพบถุงพลาสติกห่อชิ้นเนื้อซึ่งก็น่าจะเป็นเนื้อมนุษย์ ส่วนท่อที่ตันนั้น ตำรวจสำรวจแล้วพบว่าในนั้นมีชิ้นส่วนของมนุษย์อยู่จริงๆ!
โครลล์ ไม่ได้ขัดขืนการจับกุมเลย เขาถูกจับในข้อหาฆาตกรรม ระหว่างถูกคุมตัว เขาก็ไม่ได้มีท่าทีวิตกกังวล เขาเชื่อว่าตำรวจเพียงจะนำตัวเขาไปรักษา แล้วเขาก็จะกลับมาใช้ชีวิตในสังคมตามปกติได้เหมือนเดิม
จากการวินิจฉัยของแพทย์พบว่า โครลล์ มีความผิดปกติทางด้านอารมณ์อย่างมาก เขามีความต้องการทางเพศสูง ในห้องของเขาเต็มไปด้วยเครื่องมืออุปกรณ์บำบัดความใคร่เพียบ มีตุ๊กตายางอยู่หลายตัว เขาเล่าว่าขณะที่เขาประกอบกิจกรรมกับตุ๊กตายาง เขาก็จะบีบคอตุ๊กตาไปด้วย เขามีปัญหาในการเข้าสังคม ไม่สามารถร่วมรักกับผู้หญิงที่รู้สึกตัวได้ ดังนั้นเขาจึงทำให้ผู้หญิงเหล่านั้นหมดสติหรือไม่รู้สึกตัวเสียก่อนจึงจะข่มขืน แล้ววิธีการไหนจะง่ายและรวดเร็วไปกว่าการฆ่าล่ะ และที่เขาเลือกเหยื่อที่อายุน้อย ก็เพราะว่าสามารถจัดการได้ง่ายกว่านั่นเอง
ส่วนประเด็นการเฉือนเนื้อเหยื่อกลับไปกินนั้น เขาสารภาพว่าไม่ได้ทำทุกรายไป เขาจะเฉือนเฉพาะรายที่เขามั่นใจว่าเนื้อจะไม่เหนียว โดยจะนำกลับไปกินเป็นอาหารเพื่อจะได้ประหยัดเงินเท่านั้นเอง …
ตำรวจมั่นใจว่าเหยื่อของเขาต้องมีมากกว่านี้แน่นอน (ตอนที่สอบสวน ระบุได้ ๑๔ ราย) เพราะมีช่วงเวลาที่ขาดหายไปถึง ๔ ปี (๑๙๕๖-๑๙๕๙) ซึ่งเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะเลิกล่าเหยื่อไปเฉยๆ และจากการวินิจฉัยของทีมแพทย์สรุปได้ว่า การกระทำของเขาเป็นผลมาจากความผิดปกติทางจิตล้วนๆ เพราะแม้จะถูกควบคุมตัว เขาก็ยังเชื่อว่าเขาไม่ได้ทำอะไรผิดแผกไปจากที่คนทั่วไปเขาทำกันเลยซักนิด โครลล์ ตายเพราะอาการหัวใจวายในคุก เมื่อปี ๑๙๙๑