ย่าน Jimbocho หรือ Book Town ในโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น นี่คือแหล่งหนังสือมือสองที่ใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น วางแผนไว้มาต้องมาเยือนให้ได้ ถึงจะมีเวลาอยู่ได้ไม่นาน แต่ก็สนุกสนานไปกับหนังสือทั้งเก่าและใหม่มากมาย ต่อให้อ่านไม่ออก ได้ดู ได้สัมผัส ก็อิ่มเอม
ห่างจากแหล่งบันเทิง Akihabara เพียง ๒-๓ สถานี จากโลกแห่งแสงสีละลานตามาสู่ความเข่งขรึมของกองหนังสือเก่าท่วมหัว ย่านนี้เป็นแหล่งรวมของปัญญาชนในอดีต ปัจจุบันก็ยังเป็น เพราะมีสถาบันการศึกษารายล้อมหลายแห่ง อย่างเช่น Tokyo Medical and Dental University Kyōritsu Women’s University Juntendo University สมัยขะโน้นพวกบัณฑิตชอบมารวมตัวกันถกปัญหาบ้านเมือง จนทางการต้องคอยส่งคนมาสอดส่องเฝ้าตามเป็นระยะ เคยถูกพระเพลิงเผาราบมาครั้งหนึ่ง แต่ก็ฟื้นตัวขึ้นมาใหม่จนได้ ค.ศ. ๑๙๑๓ สำนักพิมพ์เล็กๆ แห่งหนึ่งกำเนิดขึ้นชื่อว่า Iwanami Shoten ปัจจุบันกลายเป็นสำนักพิมพ์ที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศ ทุกวันนี้ผ่าน Jimbocho ยังคงเป็นแหล่งพบปะของเหล่าหนอนหนังสือทุกรุ่น และยังมีอาคารสำนักงานขนาดใหญ่มากมาย บรรยากาศจึงไม่เงียบเหงา แถวยังมีร้านอาหารอร่อยๆ เพียบด้วย
เดิมทีนั้นผมวางแผนจะมาเยือนตั้งแต่หัววัน แต่ด้วยอุปสรรคบางประการทำให้มาถึงก็เย็นย่ำแล้ว มีเวลาเดินสำรวจไม่มากนัก ร้านหนังสือส่วนใหญ่จะทยอยปิดตั้งแต่หัวค่ำ หนังสือกว่าร้อยละ ๙๐ เป็นภาษาญี่ปุ่น แน่นอนว่าผมอ่านไม่รู้เรื่อง แต่คอหนังสือน่าจะเข้าใจหัวอกเดียวกันได้ แค่ได้พลิกเปิดดูมันก็มีความสุขแล้ว
หนังสือเกินกว่าครึ่งเป็นหนังสือเก่า อารมณ์ประมาณจตุจักรสมัยก่อน แต่เป็นระเบียบเรียบร้อยและสะอาดกว่าล้านเท่าน นอกจากหนังสือยังมีนิตยสาร การ์ตูน โปสเตอร์ โปสการ์ด แผ่นเสียง CD เครื่องเขียน ของใหม่ก็มี ของเก่าก็มาก คนที่รักทางนี้ขอบอกเลยว่าหนึ่งวันไม่น่าจะพอ
ด้วยความที่เปิดขายหนังสือเก่าด้วย เลยลองสำรวจดู ผมว่าบ้านเขาก็ตั้งราคาขายตามใจไม่ได้มีเกณฑ์ตายตัว หนังสือภาพสวยๆ ปกแข็งที่ดูทีแรกคิดว่าน่าจะราคาแพง กลับราคาถูกจนน่าตกใจ ผมหยิบหนังสือรวมผลงานของ Katsushika Hokusai มาดู กระดาษอาร์ตหนาปึก สภาพดีมาก ปิดขายที่ ๘,๐๐๐ เยน หรือราวๆ ๒,๖๐๐ บาท ผมว่าสมราคา ไม่ถูกและไม่แพงเกินไป ราคานี้ในบ้านเราอาจจะหาได้ แต่สภาพอาจจะไม่ดีเหมือนที่นี่ รับรองเลย
นกจากหนังสือเก่าแล้ว เดินเพลินๆ ไปเจอร้านของของเกี่ยวกับไอดอล ทั้งรูปภาพ แมกกาซีน ของที่ระลึก ทุกอย่างที่เชื่อมโยงถึงไอดอลสาวๆ ทั้งยุคเก่าและใหม่ ทำเอาอึ้งกับความคลั่งไคล้เอาจริงเอาจังของคนที่นี่ ภาพถ่ายโพลาลอยด์พร้อมลายเซ็นของไอดอลยุค ๙๐ หนึ่งในราคา ๓,๐๐๐ เยน ประมาณ ๑,๐๐๐ บาท แม่เจ้า คนที่สะสมคงตาลุกวาว
โดยรวมแล้วสมใจครับที่ได้มาเยือน เสียดายที่เวลาน้อยไปหน่อย ครั้งหน้าต้องมาซ่อมแบบเต็มๆ แน่นอน
การเดินทาง มาได้หลายทาง ใช้รถไฟใต้ดินสาย Shinjuku Line Mita Line หรือ Hanzomon Line ก็ได้ ลงที่สถานี Jimbocho ออกมาก็เจอร้านหนังสือครับ เดินวนตามบล็อกไปไม่หลงแน่นอน
———————————————————————————————–
Isseido Shoten ร้านนี้อลังมาก บรรยากาศเหมือนห้องสมุดมหาวิทยาลัยเก่าแก่ หนังสือส่วนใหญ่เป็นหนังสือโบราณ ประวัติศาสตร์ ศิลปะ หนังสือทั่วไปก็มี เจ้าหน้าที่ใส่สูทผูกไทเหมือนอาจารย์ทรงภูมิ รวมแล้วมันคือห้องสมุดชัดๆ หนังสือแบ่งเป็นหมวดหมู่อย่างง่ายๆ ไม่ได้ใช้ระบบอะไรซับซ้อน ระบบที่แม่นที่สุดคือตัวเจ้าหน้าที่ ผมลองสอบถามดูเขาก็พาไปได้ตรงจุดพร้อมแนะนำมาให้อีกเพียบ เหลือบเจอหนังสือ ศิลปะสุโขทัย ของ อาจารย์หม่อมเจ้าสุภัทรดิศ ปิดราคา ๔,๐๐๐ เยน ประมาณพันกว่าบาท นับว่าถูกทีเดียว
บรรยากาศภายในร้าน Isseido Shoten ที่เห็นไกลๆ คือเจ้าหน้าที่ กำลังทำทะเบียนหนังสือ เหมือนบรรณารักษ์เลย
ร้านนี้ไม่ทราบชื่อ หนังสือภาษาญี่ปุ่นล้วนๆ ราคาหลักร้อยไปจนถึงหลักหมื่น ชั้นบนขายบรรดาภาพถ่ายและงานศิลปะ
หน้าร้านนี้ขนเอาโปสเตอร์เก่า CD เพลงเก่ามาเลหลังขายถูกๆ ฟังได้หรือไม่ต้องแล้วแต่ดวง
ร้านนี้ก็ขายโปสเตอร์หนัง สูจิบัตร โปสการ์ด ราคาเริ่มที่ร้อยเยน
ร้านนี้ก็มีชื่อ ขายหนังสือเก่า ภาพถ่ายเก่า มีโปสเตอร์หนังเก่าๆ น่าสนใจเพียบ ทั้งหมดเป็นเวอร์ชั่นภาษาญี่ปุ่น คนที่ชอบสะสมน่าจะชอบ
ร้านขายของที่ระลึกไอดอล มีสองชั้น ทั้งสองชั้นอัดแน่นไปด้วยแมกกาซีนเก่า รูปภาพ โปสเตอร์ ไอดอลยุค ๗๐ จนถึงยุคปัจุบัน มีเยอะจนลายตา อยากหาไอดอลคนไหนถามจากพนักงานได้เลย เจอแน่นอน
ร้านนี้ขายการ์ตูน จะเก่าใหม่มีหมด รวมถึงการ์ตูนติดเรตก็มี
ชั้นบนของร้านแห่งหนึ่ง ไม่ทราบชื่อ ขายพวกงานศิลปะ มีแมกกาซีนเก่า โปสการ์ดเก่าๆ ราคาไม่แพงเมื่อเทียบกับคุณค่า