มีโอกาสได้เป็นวิทยากรบรรยายและนำชมคณะวิทยาศาสตร์ให้กับนักศึกษารุ่นใหม่ เทียบอายุแล้วเรานี่กลายเป็นพ่อเขาได้เลย หรือจะขยับฐานะเป็น “ลุง” ก็ไม่ผิดไป เล่ามาถึงเพลงประจำของคณะฯ ที่มีประวัติยาวนานตั้งแต่สมัยวงดนตรีสุนทราภรณ์ พลันได้ยินแว่ว ๆ จากเด็ก ๆ ว่าไม่รู้จัก ก็เป็นธรรมดาตามประสาวัยรุ่นที่คงจะไม่รู้จักวงดนตรีรุ่นคุณปู่คุณย่า ย้อนมาดูตัวที่ยังฟังเพลงยุคนั้นอยู่ ก็คงใกล้เคียงเป็นคุณปู่ไปทุกที
วงดนตรีสุนทราภรณ์ ก่อตั้งโดย ครูเอื้อ สุนทรสนาน ต้องย้อนความไปสมัยขะโน้นที่บ้านเรามีวงดนตรีไทยมากมาย ท่านที่เคยชมหนังเรื่อง “โหมโรง” คงจะนึกภาพออก พอมาในสมัยรัชกาลที่ ๖ วงดนตรีสากลหรือดนตรีฝรั่งเริ่มเข้ามาในสยามมากขึ้น ด้วยเพราะในหลวงท่านโปรด ถึงกับมี กรมมหรสพ ขึ้นด้วย กรมนี้มีวงดนตรีเครื่องสายฝรั่งอยู่สองวง ควบคุมโดย พระเจนดุริยางค์ นักดนตรีล้วนแต่เป็นข้าราชการกินเงินเดือนตั้งแต่ ๕ บาท ไปจนถึงสูงสุด ๓๐ บาท ครูเอื้อท่านก็เล่นไวโอลินอยู่ที่นี่ตั้งแต่อายุ ๑๓ ปี
นอกจากวงดนตรีหลวงแล้ว ราษฎรทั่วไปก็มีโอกาสฟังดนตรีตามบาร์หรือโฮเต็ล สถานบันเทิงเหล่านี้จัดว่าราคาสูง ต้องมีฐานะเสียหน่อยถึงจะเข้าไปฟังกันได้ เมื่อเข้าวัยหนุ่มครูเอื้อท่านก็ติดตามนักดนตรีรุ่นพี่ ๆ มาแสดงหารายได้ตามสถานบันเทิงเหล่านี้ รายได้นับว่าสูง นักเปียโนเก่ง ๆ อาจได้คืนละ ๕ บาททีเดียว
ครั้นสิ้นแผ่นดินรัชกาลที่ ๖ มีการจัดระเบียบหน่วยงานเสียใหม่ กรมมหรสพ ถูกลดมาเป็น กองมหรสพ เพื่อให้สอดคล้องกับจำนวนข้าราชการและลดรายจ่ายที่ไม่จำเป็น แต่ก็มิได้กระทบต่อคุณภาพชีวิตของคนในกรมนัก ครูเอื้อซึ่งนัดนี้กลายเป็นซีเนียร์ไปแล้ว ยังได้เงินเดือนถึง ๒๕ บาท และในหลวงรัชกาลที่ ๗ แม้จะทรงพระปรีชาดนตรีไทยแต่ก็ทรงโปรดดนตรีฝรั่ง โปรดเกล้าฯ ให้กองเครื่องสายหมั่นฝึกซ้อมเล่นเพลงใหม่ ๆ เสมอ เพื่อให้ทัดเทียมวงของต่างประเทศ และโปรดเกล้าฯ ให้เข้าไปบรรเลงถวายที่วังศุโขทัยถึงสัปดาห์ละสองครั้ง
ในรัชกาลนี้เป็นยุคที่วงดนตรีฝรั่งเฟื่องฟูมาก นอกจากวงดนตรีหลวงแล้ว เจ้านายต่าง ๆ ก็ตั้งวงดนตรีขึ้น ที่มีชื่อเสียงมากคือวงของสมเด็จพระเจ้าพี่ยาเธอ กรมพระนครสวรรค์วรพินิต (สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าบริพัตรสุขุมพันธุ์ กรมพระนครสวรรค์วรพินิต) ผู้บัญชาการกรมทหารมหาดเล็กรักษาพระองค์ นอกจากนี้กองทหารต่าง ๆ ก็ตั้งวงดนตรีขึ้นมา แต่วงดนตรีฝรั่งของราษฎรเองยังไม่มี ยังมีแต่วงดนตรีไทยเท่านั้น
ภายหลังเปลี่ยนแปลงการปกครอง กองเครื่องสายฝรั่งย้ายไปสังกัดกรมศิลปากร ครูเอื้อกินเงินเดือน ๓๐ บาท แต่ยังออกตระเวนเล่นดนตรีตามโฮเต็ลเช่นเดิม ซึ่งขณะนั้นเริ่มมีวงดนตรีฝรั่งของราษฎรทั่วไปบ้างแล้ว
พ.ศ. ๒๔๗๙ บริษัทภาพยนตร์ไทยชื่อ ไทยฟิล์ม หุ้นใหญ่ของบริษัทคือ พระองค์เจ้าภาณุพันธ์ยุคล กับ หลวงสุขุมนัยประดิษฐ์ สร้างภาพยนตร์ไทยเรื่อง ถ่านไฟเก่า โดยให้ครูเอื้อจัดทำดนตรีประกอบ เพลงที่โด่งดังมากคือเพลง ในฝัน (ประพันธ์คำร้องโดย พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าภาณุพันธ์ยุคล ทำนองโดย ท่านผู้หญิงพวงร้อย อภัยวงศ์) เดิมทีเพลงนี้จะต้องขับร้องโดยพระเอกของเรื่องคือ คุณทองแท้ สดศรีทอง แต่ท่านขับร้องไม่ได้ จึงตกเป็นหน้าที่ของครูเอื้อแทน หลังจากประสบความสำเร็จอย่าล้มหลาม ครูเอื้อจึงตั้งวงดนตรีขึ้นชื่อ “วงไทยฟิล์ม” ในปี พ.ศ. ๒๔๘๐ เป็นจุดเริ่มต้นของ “วงสุนทราภรณ์” วงดนตรีในตำนานของประเทศไทย
เรียบเรียงจาก
อติพร สุนทรสนาน. (๒๕๑๔). เอื้อ สุนทรสนาน ๕ รอบ. ธนบุรี : ป.พิศนาคะ การพิมพ์.