จำกันได้ไหมว่าเงินเดือนก้อนแรกเอาไปใช้ทำอะไร …
นอกจากช่วยสนับสนุนค่าใช้จ่ายภายในบ้านตามประสงค์ของคุณหญิงแม่แล้ว จำได้ว่ากำเงินก้อนแรกเข้าวังบูรพา ไปซื้อหนังสือ “สามก๊ก” ที่ร้าน รวมสาส์น สมัยเรียนที่สวนฯ ชอบมาเดินดูหนังสือที่นี่ (แต่ไม่มีตังค์ซื้อ) แถวนี้มีร้านหนังสือใหญ่ๆ อยู่หลายร้าน แต่ไม่ค่อยมีคนเข้า เพราะเป็นหนังสือยุคเก่าถึงเก่ามาก ที่ดูทันสมัยที่สุดตอนนั้นก็เป็นแพร่พิทยา ร้านที่เหลือก็เป็นหนังสือรุ่นโบราณ พิมพ์ด้วยกระดาษบรู๊ฟเหลืองๆ ไสกาว ราคาถูก สามก๊กที่ซื้อเป็นฉบับพิมพ์ปี ๒๕๑๕ คงเคยเห็นกัน เล่มหนาๆ สีเขียว มีสองเล่ม คนขายบอกว่า ๒๕๐ บาทก็พอ แล้วก็ซื้อ ราชาธิราช มาอีกเล่ม น่าจะร้อยเดียวมั้ง เข้าใจว่าเก็บค้างมานาน ไม่ค่อยมีใครไปซื้อหนังสือที่วังบูรพากันแล้วตั้งแต่สมัยนั้น มีหนังสือเก่าๆ เยอะ นิยาย หนังสือตำรา หนังสือดูดวง สมัยก่อนราคาปกแต่ ๑๕-๓๐ บาท ราคา ๘๐ บาทนี่ก็แพงโคตรแล้ว
นอกจาก รวมสาส์น กับ แพร่พิทยา แล้วก็ยังมี โอเดียน สโตร์ ชื่อนี้น่าจะคุ้นๆ หู เพราะเป็นผู้ผลิตและจัดจำหน่ายหนังสือเรียน แล้วก็มีร้าน คลังวิทยา ร้านพวกนี้ไม่ได้เป็นร้านที่ดูทันสมัยเหมือนในยุคนี้ มีหนังสือเรียงแน่นอยู่เต็มผนัง แบ่งหมวดบ้างไม่แบ่งบ้าง บ้างก็กองเป็นตั้งอยู่ที่พื้น ตอนโน้นผมยังงงๆ ว่าร้านพวกนี้อยู่กันได้ยังไง เพราะหนังสือมันตกรุ่นไปเยอะ ที่พอจะทันยุคบ้างก็มี แต่มันจะดูเชยๆ ที่พอจะขายได้ชัวร์ก็เป็นหนังสือเรียนเสียส่วนมาก
สามก๊ก เวอร์ชั่นนี้ล่ะ (ยืมภาพมาจาก onebook.com)
บางร้านอย่าง คลังวิทยา มีแต่หนังสือเก่า หมายถึงหนังสือรุ่นเก่าที่ยังไม่ได้ขายนะครับ ไม่ใช่หนังสือมือสอง ส่วนมากก็เป็นนิยายยุคโบราณ หนังสือดูดวง หนังสือสารคดี พูดอังกฤษ ๘๐ ชั่วโมง อะไรเทือกนั้น ซึ่งไม่มีคนอ่านแล้วแน่ๆ ล่ะ แต่ก็แปลกที่ร้านนี้ยังอยู่มาได้ถึงปัจจุบัน
ความจริงแล้วร้านพวกนี้เขาไม่ได้เน้นการขายหน้าร้านครับ เพราะพวกเขาเป็นสำนักพิมพ์ที่รับพิมพ์หนังสือเป็นอาชีพ พิมพ์หนังสือใหม่ๆ อยู่เรื่อยๆ แหละครับ แล้วก็ส่งไปตามสายส่งที่มีทั่วประเทศ จึงไม่แปลกที่หน้าร้านจะค่อนข้างเงียบเหงา แต่ชื่อสำนักพิมพ์พวกนี้ส่วนใหญ่คุ้นๆ ชื่อทั้งนั้น ลองพลิกดูด้านหลังหนังสือใกล้มือท่านสิ อาจจะเจอชื่อว่าเป็นผู้พิมพ์หรือเป็นตัวแทนจำหน่ายก็ได้

หลังจากซื้อสามก๊กแล้ว ผมก็เดินดุ่ยไปถึงถนนเจริญกรุงเพื่อไปร้าน บูรพาสาส์น ตอนนั้นไม่รู้หรอกครับว่าอยู่ตรงนี้ ถามเจ้าของร้านรวมสาส์นเขา คือถามหาหนังสือของนักเขียนคนโปรด คุณวาณิช จรุงกิจอนันต์ เขาก็บอกว่าลองไปแพร่พิทยาหรือไม่ก็บูรพาสาส์น เพราะร้านนั้นเขาเหมาพิมพ์งานของคุณวาณิชอยู่ (ในตอนนั้น) บูรพาสาส์น นี่เป็นสำนักพิมพ์เก่าแก่นะครับ สมัยก่อนนี่พิมพ์ตำราเรียนเยอะแยะ ตำราทำกับข้าว งานบ้านงานเรือนของคุณแม่บ้าน แล้วก็นิยาย อันนี้เด่นมาก ผมว่าเขาอาจเป็นเจ้าแรกเลยก็ได้ที่ทำหน้าปกนิยายเป็นรูปวาดสวยๆ ติ๊งต่างเป็นพระเอกนางเอก ผมค้นดูนิยายสมัยก่อนไม่เห็นมีแบบนี้ บางทีก็เป็นลายเส้นง่ายๆ เป็นรูปดอกไม้ใบหญ้าบ้าง แต่ของบูรพาสาส์นนี่ทำเป็รูปเขียนสวยเชียว
ลองไปดูที่บูธในงานหนังสือแห่งชาติสิครับ จะเห็นว่าเขาขนนิยายเก่าๆ มาลดราคาขาย แล้วก็นิยายที่พิมพ์ใหม่ก็มี คือเรื่องเดิมแต่จัดรูปเล่มใหม่ให้ทันสมัยยิ่งขึ้น
ที่บูรพาสาส์นก็เงียบเช่นกัน ไม่ได้เน้นขายหน้าร้าน แต่ในร้านดูยุ่งทีเดียว เขาแพ็คหนังสือเตรียมส่งกันอยู่ พอผมเข้าไปเดินเลือกหนังสือก็เลยดูแปลกๆ เดินคุ้ยดูตามใจนึกเลยครับ คนขายเขาก็ปล่อยเต็มที่ มึงอยากดูอะไรก็ดูไป วันนั้นก็ได้หนังสือคุณวาณิชกลับมาหลายเล่ม บ้านเกิดและเพื่อนเก่า ซอยเดียวกัน สนทนาประสาจน แม่เบี้ย ฯลฯ เป็นฉบับที่พิมพ์โดยบูรพาสาส์น เดี่ยวนี้หายากแล้วนะครับ หนังสือของคุณวาณิชในปัจจุบันกระจายไปพิพม์ตามสำนักพิมพ์ใหญ่ๆ ที่เห็นมากสุดก็ อมรินทร์พริ้นติ้ง ชุดที่ซื้อมาวันนั้นก็สูญหายไปเกลี้ยง เหลือเล่มเดียวคือ บ้านเกิดและเพื่อนเก่า แต่ก็วิ่นเต็มทน

(ขอบคุณภาพจาก google map เว้ย)
เสน่ห์ของร้านหนังสือที่วังบูรพา นอกจากความคลาสสิกแล้ว ผมชื่นชมคนขาย (ซึ่งอาจจะเป็นเจ้าของหรือไม่ก็ไม่ทราบ) จำได้ว่าถามอะไรรู้หมด หนังสือเล่มนั้นมีมั้น เล่มนี้เกี่ยวกับอะไร นิยายของคนนั้นมีมั้ย เล่มนี้เรื่องเป็นยังไง เขาบอกเราได้หมด บางทียังสงสัยว่าเขาอ่านหมดทุกเล่มแล้วกระมัง สมัยนี้ร้านหนังสือมีมากขึ้นครับ ร้านที่เป็นสาขาจากสำนักพิมพ์ดังๆ ก็มีทุกห้างทุกมุมเมือง แต่ขัดใจที่บางครั้งถามอะไรแล้วไม่ได้ความ ผมจะซื้อแมกกาซีนเล่มหนึ่งเป็นประจำชื่อว่า Bioscope ผมซื้อไปเรื่อยตามสะดวก เคยซื้ออยู่ร้านหนึ่ง จนเดือนถัดมาก็ไปร้านเดิม ถามหาจากผู้จัดการ เขาตอบว่าที่ร้านไม่ได้รับแมกกาซีนชื่อนี้ อ้าว ก็กูเพิ่งซื้อไปเดือนที่แล้ว วันรุ่งขึ้นไปใหม่ เห็นเล่มนี้วางอยู่ที่แผง คือไปดูเฉยๆ ครับ แต่ไม่ซื้อ เจออีกร้านก็ไปถามหาแบบเดิม เขาบอกก็บอกว่าแมกกาซีนกล้องเราไม่มีขาย เวร ไม่รู้ก็ถามกูก็ได้ ว่าเป็นแมกกาซีนเกี่ยวกับอะไร มึงอย่าตัดสินใจเองสิวะ แล้วร้านนั้นผมก็ไม่ซื้ออีกเช่นกัน
สรุปว่าเงินเดือนก้อนแรกของผมถูกแปรเป็น สามก๊ก ราชาธิราช แล้วก็หนังสือของคุณวาณิช อีกหอบใหญ่ ขนกลับมาบ้านโดนคุณหญิงแม่ด่าเช็ด ว่าขนอะไรกลับมาให้รกบ้าน ก็เลยบอกไปว่าไม่ต้องรีบด่าขอรับ เพราะเดี๋ยวจะขนมาให้ด่าอีกเยอะแน่ ฮ่า ๆ