ไปชม อาคารนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว มาครับ ที่ อาคารถาวรวัตถุ ตรงถนนหน้าพระธาตุ ใกล้กับ วัดมหาธาตุฯ ตรงสนามหลวง ได้ข่าวว่าเขาบูรณะและปรับปรุงเป็นอาคารสำหรับใช้งานอ่านมานานแล้ว แต่ไม่ได้เข้าไปชมเสียที
ตึกหลังนี้สมัยก่อนเขาเรียกกันว่า “ตึกแดง” ชื่อจริงๆ คือ ตึกถาวรวัตถุ สร้างในสมัยแผ่นดินรัชกาลที่ ๕ ในครั้งแรกนั้นมีพระราชประสงค์ว่าจะให้ใช้เป็นที่ประดิษฐานพระบรมศพของพระองค์เอง และยังมีพระราชดำริให้ใช้พื้นที่บางส่วนเป็นที่เล่าเรียนของพระสงฆ์ฝ่ายมหานิกายด้วย แต่การก่อสร้างไม่ทันแล้วเสร็จจนสิ้นรัชกาล โดยมาเสร็จสมบูรณ์เอาในแผ่นดินรัชกาลที่ ๖ และโปรดเกล้าฯ ให้ย้ายหอพระสมุดวชิรญาณสำหรับพระนคร จากศาลาสหทัยสมาคมมายังตึกหลังนี้ และตั้งให้เป็น หอพระสมุดวชิรญาณสำหรับพระนคร นับแต่นั้นมา โดยเสด็จพระราชดำเนินทรงเปิดตึกถาวรวัตถุ เมื่อวันที่ ๖ มกราคม พ.ศ. ๒๔๕๙
ต่อมาในแผ่นดินรัชกาลที่ ๗ ก็มีการสับเปลี่ยนการดำเนินงานของหอพระสมุดเรื่อยมา และตึถาวรวัตถุก็ถูกปรับเปลี่ยนเพื่อประโยชน์ใช้สอยตามแต่ความเหมาะสม จนในช้วงปี พ.ศ. ๒๕๐๙-๒๕๕๒ ตึกหลังนี้ได้ถูกหมุนเวียนเป็นสถานที่ทำการของหน่วยงานต่างๆ เรื่อยมา ที่ผมคุ้นเคยก็คือ กองสถาปัตยกรรม เพราะเคยตามเพื่อนที่เรียนสถาปัตย์ไปติดต่อขอแบบแปลนอาคารอะไรซักอย่างของมัน เลยได้รู้ว่าเวลาจะติดต่อขอแปลนอาคารสำคัญต้องมาเดินเรื่องที่กองสถาปัตย์นี่ล่ะ
สมัยโน้นตัวตึกยังเป็นสีแดง เขาเลยเรียกกันติดปากว่า ตึกแดง จนปี พ.ศ. ๒๕๕๓ จึงบูรณะเสร็จสมบูรณ์และเปลี่ยนเป็นอาคารนิทรรศการถาวรแบบในปัจจุบัน แต่ก็เปลี่ยนสีกลายเป็นสีเหลืองไปซะแล้ว
ห้องนิทรรศการ กล้องกิ๊กก๊อกของผมถ่ายมาได้แค่นี้ล่ะ
ภายในเขาจัดนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ รัชกาลที่ ๕ ไว้สวยงาม ลำพังแค่ตัวอาคารก็ขลังและสวยงามเหลือเกินแล้ว ภายในแบ่งเป็นห้องต่างๆ แสดงภาพและนิทรรศการเกี่ยวกับพระราชกรณียกิจ มีหนังสือเกี่ยวกับประวัติศาสตร์และศิลปะจำหน่าย และยังมีของที่ระลึกเก๋ๆ จำหน่ายด้วย แต่รู้สึกว่าคนยังเข้าชมน้อยไปหน่อย อาจจะยังประชาสัมพันธ์ไม่เพียงพอ สถานที่ตั้งก็มีส่วนนะครับ บริเวณถนนหน้าพระธาตุมีแต่รถบัสนักท่องเที่ยวจอดเรียงรายปิดทางเข้าไปหมด มองมาจากสนามหลวงนี่แทบไม่เห็นเลย ปิดบังทัศนียภาพ ทำให้คนไม่เห็น น่าเสียดาย
ขอบ่นต่อเรื่องการปรับปรุงทัศนียภาพของสถานที่สำคัญหน่อยเถอะ ที่รับไม่ได้เลยคือความมักง่ายของคนไทย อย่างตึกนี่ขออภัยนะครับ ซกมกเหลือประมาณ บริเวณรั้วด้านหน้ามีแต่ขยะ แม่ค้าพ่อค้าขายของกันเลอะเทอะ ไปห้ามไปจับเดี๋ยวก็ดราม่ากัน อ้างว่าขายกันมานานบ้างล่ะ รังแกคนจนบ้างล่ะ ผมว่าเหตุผลไม่เข้าท่านะครับ สมบัติของชาติไม่ใช่สมบัติของใครคนหนึ่ง เอาประโยชน์กันเกินไป คนไทยยังไร้สำนึกหวงแหนสมบัติของชาติอยู่เช่นนี้ อีกหน่อยจะไม่เหลือของดีๆ ไว้ให้ลูกหลานแน่ครับ
ใครไปแถวนั้นก็แวะเข้ามาชมกันหน่อย นิทรรศการเขาทำออกมาดีทีเดียว แค่ชมตัวตึกก็คุ้มแล้วครับ ไม่เสียค่าเข้าชมด้วย จะไทยจะฝรั่งก็เข้าชมฟรี เขาเปิดให้ชมวันพุธ-อาทิตย์ ตั้งแต่ ๙ โมงเช้า ถึง ๔ โมงเย็น จะเดินมาจากวัดพระแก้วหรือทาง ม.ธรรมศาสตร์ ก็ได้ หรือถ้ามาจากท่าช้าง ท่าพระจันทร์ ก็เลียบหลังตึก ม.ศิลปากร ก็ได้ จะทะลุเข้ามาจากวัดมหาธาตุฯ ก็ได้เช่นกัน
ห้องนี้เป็นนิทรรศการพระราชกรณียกิจด้านการต่างประเทศ
บริเวณทางเดินในตึก พื้นไม้ขัดมันวับ รอบๆ จะจัดแสดงนิทรรศการภาพถ่าย หนังสือ ซึ่งมีจำหน่ายด้วย
มุมนี้เขาจะให้เราหยอดเหรียญสิบบาท แล้วจะมีโปสการ์ดพระบรมฉายาลักษณ์ของ รัชกาลที่ ๕
มาให้เป็นที่ระลึก มีทั้งหมด ๖๐ แบบ ผมกดมาสามรูป
ห้องนี้ทำเอาตกใจ พอเราเดินผ่าน วีดีทัศน์ก็จะทำงาน เป็นเสียงของท่านเจ้าคุณตวาดออกมาว่า
เอ็งชื่ออะไร … คือเขาดำเนินเรื่องว่ามีคนเอาลูกสาวมาขายเป็นทาสให้ท่านเจ้าคุณ
เราก็จะได้ความรู้เรื่องทาสในสมัยก่อนผ่านบทสนทนา
หลายคนไม่กล้าเข้า เลยต้องติดป้ายบอกว่าเข้าฟรี
ส่วนหนึ่งของตึกเป็นที่ตั้งของ ศูนย์นราธิป ปรากฏว่าทางเข้าถูกจับจองเป็นร้านขายข้าวไปซะงั้น
ทำมาหากินมันก็สำคัญครับ แต่อยากให้ดูความเหมาะสมด้วย