ทั้งสองร้านจะมีห้อยท้ายว่า นครสวรรค์ แต่ดันมาเปิดขายอยู่แถวประตูช้างเผือก ที่เชียงใหม่ ร้านแรกนั้นยังเปิดขายอยู่ กลายเป็นร้านยอดฮิตติดปากชาวเมืองหลังจากมีสื่อคนดังอย่าง นายอุดม แต้พานิช เอามาเล่นในเดี่ยว ส่วนร้านหลังนั้นปัจจุบันไม่มีแล้ว เหลือเพียงชื่อและความทรงจำของบรรดาขี้เมาทั้งหลาย
สมัยก่อนพอเลิกจากสังสรรค์หรือหลังจากกรึ่มได้ที่แล้ว ก่อนกลับไม่รู้ทำไมต้องหาอะไรใส่ท้องก่อนทุกที ที่เขาว่าพอเสพแอลกอฮอล์แล้วมันทำให้อยากอาหารขึ้นมา อันนี้จริงเท็จประการใดไม่ทราบ หรือมันอยากจะกินขึ้นมาเองก็ไม่รู้นะครับ เอาเป็นว่าหมดจากธุระที่ทำให้หัวมึนแล้วก็ต้องหาอาหารกินทุกทีไป และร้านพวกนี้เหมือนจะรู้ใจ เปิดซะดึกดื่นค่อนคืนรอรับขี้เมาทั้งหลายนี่ล่ะ
คนที่ไม่เมาเขาก็มากินกันนะครับ เมืองไทยนี่หาอาหารกินได้สะดวกที่สุดในโลกแล้วกระมัง ไม่ว่าจะดึกแค่ไหนก็ยังมีของกินคอยบริการ
ก๋วยเตี๋ยวอ๋อง นี่เมื่อก่อนไม่ได้เป็นห้องสองคูหาแบบเดี๋ยวนี้นะครับ ถ้าจำไม่ผิดนี่เขายังมากางโต๊ะนั่งกินกับบนถนนเลยด้วยซ้ำ คือสมัยนั้นรถรายังไม่หนาแน่นเท่าตอนนี้ ดึกๆ หน่อยก็เงียบแล้ว นานๆ จะมีรถผ่านมาซักคัน เขาก็เลยอาศัยบนถนนนั่นล่ะตั้งโต๊ะมันเสียเลย คือเพิ่มจากริมฟุตบาธมาซัก ๓-๔ ตัว
เรื่องรสชาตินั้นก็อร่อยใช้ได้ครับ แต่ถ้าจะว่าธรรมดาก็ธรรมดาจริงๆ นะ (แฟนๆ ร้านอ๋องอย่าโกรธกันล่ะ) ว่ากันตามตรงมันก็คือก๋วยเตี๋ยวที่ไม่ได้มีอะไรพิเศษนะครับ จุดขายอาจจะอยู่ที่ลูกชิ้นลูกเล็กๆ ซึ่งรสชาติอร่อยดีทีเดียว อันนี้ผมว่าคือจุดขายสำคัญที่เด่นเด้งกว่าตัวก๋วยเตี๋ยวมากโข เพราะโดยรวมแล้วผมว่ามันก็คือก๋วยเตี๋ยวจืดๆ ธรรมดาถ้าไม่ปรุงอะไรเพิ่ม
ส่วนจุดขายที่คนสนใจคือการออเดอร์และตอนคิดเงิน คือบ่นงึมงำๆ ซักพักก็สรุปตัวเลขออกมาอย่างว่องไว อันนี้พวกเราทึ่งมาก บางทีก็แกล้งซ่อนจานซ่อนขวดน้ำ พอเขาคิดเสร็จก็แกล้งบอกว่าอันนี้ด้วย หรือกำลังคิดอยู่เราก็แกล้งสั่งเพิ่ม กะให้หลุด แต่ไม่เคยเห็นเขาหลุดซักที
ทะลุผ่าประตูช้างเผือกเข้าไปตรงถนนพระปกเกล้าเลย ร้านอ๋อง จะอยู่ขวามือเข้าไปราวร้อยเมตร
(ขอบคุณ google map)
กินก๋วยเตี๋ยวร้อนๆ นี่สร่างเมาดีแท้นะครับ แต่ถ้าเรายังไม่เมาคือกะหาของกินเอาอิ่มจริงๆ ก็มักจะเลือกร้านฝั่งตรงข้าม เยื้องขึ้นไปทางหัวมุมใกล้ประตูช้างเผือก ชื่อร้านอู๊ดนครสวรรค์ ร้านนี้เขามีก๋วยเตี๋ยวคั่วไก่เป็นพระเอก พระรองก็คือราดหน้า ราดหน้าน่ะหากินที่ไหนก็มีถม แต่ก๋วยเตี๋ยวคั่วที่คั่วได้ใจต้องร้านนี้จริงๆ เขาจะใช้เนยผัดครับ พอลงเนยปุ๊บ กลิ่นหอมโชยมาทันที แล้วฝีมือคั่วนี่เด็ดมาก แห้งพอดีแต่ไม่ไหม้ พอพระเอกหมดจานก็ตามด้วยพระรองเป็นประจำ
ทั้งสองร้านนี่ถ้ามากินช่วงหัวค่ำจะค่อนข้างวุ่นวายเรื่องที่จอดรถ ถ้ามาดึกหน่อยก็พอจะหาที่จอดได้อยู่ มีก็เพียงปั๊มเอสโซ่ที่คงไม่ค่อยชอบ เพราะลูกค้าชอบเข้าไปจอดในปั๊มเขาซะงั้น
เดี๋ยวนี้ร้านอู๊ดหายไปแล้วครับ ตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ ปั๊มเอสโซ่นั่นก็ด้วย จะเหลือก็เพียงร้านอ๋องที่อัพเกรดต่างจากสมัยก่อนลิบลับ