การสู้รบในสามก๊กนั้น นอกจากจะต้องรบกับข้าศึกแล้ว บางครั้งก็ยังต้องสะสางปัญหาการรบกันเองภายในก๊ก ซึ่งทั้งสามก๊กต่างก็เคยเจอปัญหานี้เหมือนๆ กัน แต่ละก๊กแต่ละรุ่นต่างก็มีอุบายในการจัดการปัญหาภายในที่แตกต่างกัน บ้างก็สำเร็จ บ้างก็บรรลัยเกิด
ในศึกหับป๋า เป็นการรบกันสามเส้าเพื่อชิงเมืองหับป๋า เหตุเกิดจากอุบายอันเห็นแก่ได้ของขงเบ้ง คือส่งทูตไปคืนเมืองสามเมืองที่ยืมมาให้ซุนกวน แต่ไม่ยอมคืนเกงจิ๋ว โดยอ้างว่าเพราะโจโฉบุกมาหวังจะยึดต๋องง่อ ก็เลยเสนอแผนให้ซุนกวนยกทัพบุกหับป๋า ส่วนเล่าปี่จะยกทัพบุกตันฉวนเป็นสองฝ่ายรุมโจโฉ แม้จะรู้ว่าเป็นแผนยืมกำลังของขงเบ้ง แต่สถานการณ์ในตอนนั้นยังไงซุนกวนก็ต้องยอม
ภายหลังศึกนี้จบลง ฝ่ายที่สะบักสะบอมที่สุดคือง่อก๊กของซุนกวน โจโฉแม้จะยึดไม่ได้แต่ก็เสียกำลังไปเยอะจนต้องถอยกลับ ขณะที่ฝ่ายเล่าปี่กลับทำศึกแบบชิลๆ สบายไป
ความขัดแย้งภายในที่เอ่ยไว้ตอนต้นเกิดขึ้นในทัพง่อก๊กและวุยก๊ก ที่ง่อก๊กนั้นเป็นควมขัดแย้งระหว่างสองแม่ทัพคนโปรดของซุนกวนคือ กำเหลง และ เล่งทอง ในอดีตนั้นบิดาของเล่งทองถูกกำเหลงสังหาร เล่งทองจึงผูกใจเจ็บมาตลอด แม้ว่าจะมาอยู่ด้วยกับเจ้านายคนเดียวกัน แต่ก็ยังแค้นฝังหุ่นไม่หาย ยิ่งในศึกนี้กำเหลงสร้างผลงานไว้เยอะ เล่งทองก็ยิ่งหมั่นไส้
สองแม่ทัพถึงกับต้องจ๋อย เมื่อโดนเจ้านาย ‘ซุนกวน’ เฉ่งไปคนละดอก (ขอบคุณภาพจากซีรี่ส์ สามก๊ก)
เล่งทองอาสาโจมตีโจโฉโดยขอกำลังพลสามพัน กำเหลงก็เกทัพทันทีว่าขอกำลังคนร้อยเดียว จะไปบุกค่ายทำลายขวัญโจโฉตอนดึก แถมยังเดิมพันว่าถ้าเสียไพร่พลแม้แต่คนเดียวจะไม่เอาความชอบ ผลปรากฏว่ากำเหลงทำสำเร็จ เล่นเอาทหารวุยก๊กขวัญหายโดยที่ไพร่พลกลับมาครบร้อยคน
ความไม่ลงรอยของทั้งคู่แม้จะยังไม่ปรากฎผลกระทบต่อกองทัพอย่างชัดเจน แต่ก็ทำให้บรรยากาศภายในกองทัพไม่ค่อยราบรื่น ครั้งหนึ่งในงานเลี้ยงทั้งสองอาสารำกระบี่โชว์ แต่รำไปรำมาก็ทำท่าจะสู้กันซะเอง แม่ทัพคนอื่นก็เกรงใจไม่กล้าห้าม ร้อนถึงซุนกวนต้องลงมาสงบศึกเอง พร้อมทั้งด่ากราดทั้งคู่ กำเหลงเป็นฝ่ายสำนึกก่อนเพราะอาวุโสกว่า ขณะที่เล่งทองก็สะอึกไปเหมือนกันเพราะไม่คิดว่ากำเหลงจะยอมให้ตน
ครั้นโจโฉบุกเข้ามาหวังจะเอาคืน เล่งทองอาสาออกรบ แต่กลับถูกเกาทัณฑ์จนเกือบเสียที ดีที่กำเหลงยิงเกาทัณฑ์ออกไปช่วยไว้ทัน เมื่อเล่งทองรู้ว่ากำเหลงเป็นฝ่ายช่วยชีวิตตนไว้ก็เกิดความละอาย คุกเข่าขออภัยต่อกำเหลงที่ได้ทำการลบหลู่มาหลายหน แต่กำเหลงก็มิได้ถือโทษ จากนั้นมาทั้งสองก็กลายเป็นสหายรักกัน
ความขัดแย้งครั้งนี้ยุติลงได้เพราะเหตุผลสองข้อ คือเพราะนายดี และเพราะความสำนึกต่อหน้าที่ของแม่ทัพทั้งสอง
เล่งทองยอมขอโทษกำเหลงอย่างจริงใจ (ขอบคุณภาพจากซีรี่ส์ สามก๊ก)
ที่ว่านายดีนั้นเพราะซุนกวนมองออกว่าทั้งสองไม่ลงรอยกัน และพยายามใช้น้ำเย็นเข้าลูบ (หลังจากสาดน้ำร้อนไปก่อนทีนึงเพื่อให้หยุดกัดกัน) โดยปลอบเล่งทองว่าความแค้นในอดีตควรลืมมันเสีย เพราะตอนนี้ทุกคนต้องทำเพื่อบ้านเมืองก่อน อีกทั้งกำเหลงก็อาวุโสกว่า ยังไงเสียเขาก็ควรต้องเกรงใจบ้าง ขณะที่ก็ปลอบกำเหลงเหมือนกันว่าต้องเห็นใจอีกฝ่ายด้วย เพราะไปฆ่าพ่อเขาตายจริงๆ และยังยกเรื่องความอาวุโสมาเป็นประเด็นด้วยว่าผู้ใหญ่ก็ควรยอมให้เด็กบ้าง คิดเสียว่ามันยังเด็ก เพิ่งอาบน้ำร้อนมาไม่กี่หน ผมว่าตรงนี้ซุนกวนทำถูก หยอดมุขนี้ให้ทั้งสองฝ่ายเริ่มสำนึก เพราะต่างก็เป็นแม่ทัพด้วยกันทั้งคู่ จะมาฮึ่มๆ ใส่กันด้วยเรื่องในอดีตก็ใช่ที
และที่ว่าสำนึกดีนั้นก็เพราะผมเชื่อว่าพื้นเพของทั้งสองแม่ทัพก็ใช่ว่าจะเจ้าคิดเจ้าแค้นอะไร ลึกๆ แล้วน่าจะเป็นเพราะต่างฝ่ายต่างอยากจะโชว์พาวให้เจ้านายเห็นมากกว่า กำเหลงตอนนั้นกำลังขึ้นหม้อ ส่วนเล่งทองกำลังหนุ่มแน่นก็ต้องห้าวเป็นธรรมดา เป็นบุญของง่อก๊กที่ทั้งสองมีจิตสำนึกที่ดี พอถูกเจ้านายสะกิดโดนต่อมมโนธรรมเข้าให้ก็เริ่มเย็นลง จนเมื่อกำเหลงช่วยชีวิตเล่งทองไว้นั่นแหละ เล่งทองผู้เยาว์จึงยอมคุกเข่าให้กำเหลงโดยลืมทิฐิเก่าๆ เสียสิ้น
การกัดกันเองของคนกันเองนั้นไม่ใช่เรื่องดี แต่บางทีมันก็สามารถพลิกจากร้ายให้เป็นดีขึ้นมาได้เหมือนกัน สิ่งที่สำคัญเหนืออื่นใดคือความเป็น “มืออาชีพ” ของคู่กรณี วึ่งเดี๋ยวตอนหน้าจะมาเล่าถึงกรณีกัดกันเองของฝ่ายวุยก๊กบ้าง
ในเกมส์ ผมชอบความสัมพันธ์ของสองคนนี้นะ
ดูงุ้งงิ้ง พ่อแง่ แม่งอนมากเลย